วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

เด็กทารก วิทยาศาสตร์ กับ ความเชื่อ เรื่องจริงหรือกลอุบาย

สวัสดีจ้า หายไปพักนึงเลย กำลังยุ่งๆ กับสมาชิกใหม่ค่ะ เรียกได้ว่าต้องปรับตัวกันขนานใหญ่เลย สิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ลำบากใจเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องร้องไห้ของลูกรัก อาการร้องให้ของลูกส่วนใหญ่ถ้าตามปกติ

  • เด็กร้องเพราะหิว
  • เด็กร้องเพราะไม่สบายตัว
  • เด็กร้องเพราะอาการป่วย
  • เด็กร้องเพราะอาการตกใจ
ถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องปรับสภาพ และเรียนรู้พฤติกรรมของลูกรัก แต่บทความนี้อัอมจะยกกรณีของลูกอ้อมเองที่น่าจะอยู่ในกรณีของเด็กที่ร้องบ่อยมาก นอนคนเดี๋ยวก็สะดุ้งตกใจร้อง ไม่ทันใจร้อง นอนแป้บเดียวก็ร้อง ทำเอาอ้อมกับแฟนไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย คอยดูแลลูกอย่างเดียวก็ใช้เวลาไปทั้งวันแล้ว 

ช่วงเดือนแรกแม่ของอ้อมมาอยู่ช่วยเดือนนึ่งค่ะ ก็ธรรมดาคนสูงวัยต้องมีการผูกข้อไม้ข้อมือรับขวัญหลาน แต่ที่ไม่เข้าใจคือ ทำไมหลานร้องไห้บ่อย เพราะเท่าที่ดูคือ กินนมอิ่ม กินได้ปกติ แต่นอนไม่ค่อยได้ 
สิ่งที่อ้อมทำในตอนนั้นคือ 
เดาว่าลูกคงร้อน เพราะช่วงนั้นเริ่มเข้าหน้าร้อน ก็เลยเปิดพัดลมห่างๆ เอาไว้ให้ลูก อาการก็เหมือนเดิมนอนแป้บเดียวก็สะดุ้งตื่นแล้วร้องแบบสุดเสียง

เอาลูกเข้าห้องแอร์เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่ไม่เย็นมาก อาการก็เหมือนเดิม สะดุังตื่นแล้วร้องไห้แบบสุดเสียง เหมือนอาการคนตกใจ คิดว่าเขาคงไม่สบายตัว ก็เลยเอาลูกอาบน้ำ อาการเหมือนจะดีขึ้นก็เลยพาลูกนอน แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ลูกมีอาการสะดุ้งตื่นร้องไห้แบบสุดเสียง

แม่ของอ้อมดูแล้วอาการไม่ดีขึ้นก็เลยพากันกลับบ้านเกิดที่จังหวัดลำพูน สิ่งแรกที่ทำคือ พาลูกเข้าวัดไปให้เจ้าอาวาทสวดมนต์ให้พรผูกข้อไม้ข้อมือ ถวายเครื่องสังฆทาน ทำบุญ หลังจากนั้นก็กลับมาที่บ้าน สิ่งที่ทำให้อ้อมกับแฟนตกใจและประหลาดใจอย่างมากคือ อาการของลูกเหมือนเป็นคนละคนกับเมื่อวานหรือวันก่อนๆ กลายเป็นปกติ อ้อมขอเรียกปกติ เพราะก่อนหน้านี้ไม่น่าใช่อาการปกติของเด็ก เพราะตามที่หมอบอก คือเด็กจะตื่นมากินนมอาจจะเป็น 2 ชั่วโมงครั้งหรือ 3 ชั่วโมงครั้ง อันนี้แล้วแต่ บางคนอาจจะหลับดีมากๆจนต้องปลุกลุกขึ้นมากินนม 

หลังจากที่กลับมาจากวัด ทำบุญเสร็จ ลูกของอ้อมไม่มีอาการงอแงอีกเลย ตื่นขึ้นมากินนม แล้วก็หลับไปตามปกติ อ้อมกับแฟนแปลกใจอย่างมาก จะบอกว่าเป็นกับที่เราพาลูกไปวัดให้เจ้าิอาวาทผูกข้อไม้ข้อมือ เอาตามความจริงก็เชื่อค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ได้ทำแทบทุกทางแล้วแต่ลูกไม่ยอมนอน ออกจากมือร้องตลอด แต่หลังจากให้พระท่านผูกข้อไม้ข้อมือแล้ว ทำบุญแล้ว ทุกอย่างกลับดีขึ้นมาก ขนาดคน 5 คนเข้ามาเยี่ยมคุยกันเสียงดังลูกยังไม่ตื่น ผิดกับเมื่อตอนก่อนหน้าที่แค่เสี่ยงกดชักโครก ลูกอ้อมยังสดุ้งตกใจตื่น

มองในมุมมองของอ้อม ถ้าเอาตามหลักความเชื่อ

เป็นไปได้ว่า ด้วยความที่ลูกอ้อมยังไม่พ้นเดือน หลายๆอย่างอาจจะมาลุมเล้า มากวนไม่ให้น้องได้นอน เหมือนในหนังหรือภาพยนต์ ที่มีหลายๆ เรื่องทำออกมา อ้อมเองก็เคยดู ก็เลยทำให้เป็นภาพติดตามาตลอด ที่เด็กแรกเกิดอาจจะมีสัมผัสพิเศษที่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่เรามองไม่เห็น บางคนก็บอกว่าแฟนอ้อมมีของดีของแรง อาจจะกวนเด็ก แฟนอ้อมก็เอาของออกจากบ้าน ตอนนั้นก็ยังไม่ดีขึ้น ของดีในที่นี้จริงๆ คือก็พระเครื่องต่างๆ ที่สะสมมาค่ะ 

สิ่งที่ประหลาดใจอย่างมาก และเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้รับรู้เฉพาะคนในครอบครัวอ้อม แต่คนข้างบ้านก็รับรู้ด้วยคือ ช่วงเวลาหลังประมาณ 18.00 น. กำลังโผล้เพล้เลย ทุกๆ คนก็ต่างง้วนอยู่กับการจัดหาสัมลับกับข้าวไว้รอคนที่ออกไปทำงาน ส่วนอ้อมก็เช่นเคยยุ่งอยู่กับการเอาลูกเข้านอน อยู่ๆ ทุกๆ คนก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องให้แบบสุดเสียง ซึ่งเสียงดังกล่าวถ้าฟังจากบ้านที่อ้อมอาศัยอยู่ เสียงจะมาจากหน้าบ้านฝั่งซ้าย ตอนนั้นทุกคนตกใจ แฟนอ้อมรีบลุกขึ้นไปดูลูกที่เพิ่งเอาลงเปล แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร ตอนนั้นก็ยังไม่มีใครคิดอะไร สักพักก็ได้ยินอีกครั้ง ครั้งนี้ คนข้างบ้านต้องรีบเข้ามาดู เพราะคิดว่า เสียงนั้นเป็นเสียงของลูกอ้อมที่เพิ่งคลอดและมีอายุยังไม่พ้นเดือน แต่ปรากฎว่าพอพี่เขาเดินมาถึงบ้านแล้วถามว่าน้องเป็นอะไร ทำไมร้องเสียงดังไม่หยุดเลย อ้อม แฟนอ้อม และแม่ของอ้อม มองหน้ากันแล้วก็ งง งง และบอกไปว่า ไม่ใช่ค่ะ ลูกอ้อมนอนอยู่ในเปล เท่านั้นแหละ ทุกคนเริ่มคิดแล้วว่า สรุปเสียงเด็กร้องที่ได้ยินกันทั้งหมด มาจากไหน และเสียงเด็กร้องนั้นก็ยังดังอยู่เรื่อยๆ ในช่วงเวลาหลัง 18.00 น. คือถ้าตั้งใจฟังจะได้ยิน แต่ถ้าไม่ตั้งใจแบบทำอะไรเพลินๆ จะไม่ได้ยินเสียงนั้น พี่ข้างๆ บ้านมาทักบ่อยมาก "เมื่อคืนน้องเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมร้องบ่อยจัง" ทั้งๆ ที่วันที่เขามาทักช่วงนั้นลูกอ้อมนอนปกติเพราะอยู่ในมือพ่อกับแม่ตลอด แต่หลังจากพ้นเดือนไป เสียงดังกล่าวก็ไม่ได้ยินอีกเลย เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ด้วยหูของทุกคน

มองในมุมมองของอ้อม ถ้าเอาตามหลักวิทยาศาสตร์

ด้วยสภาพแวดล้อมที่พักเป็นบ้านเช้าค่ะ สภาพบรรยากาศโดยรอบ ด้านหน้าเป็นที่โล่ง ด้านหลังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ไม่ค่อยมีต้นไม้ ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวสามารถอยู่ได้สบายๆ มีลมเย็นตลอดทั้งวัน แต่ช่วงที่ลูกอ้อมเกิดเป็นฤดูร้อน ดังนั้นลมที่พัดเข้ามาภายในบ้านก็จะเป็นลมร้อนทำให้อากาศภายในบ้านอุดอู้ อบอ้าว เด็กอาจจะไม่สบายตัวก็เลยร้อง

ผิดกับบรรยากาศที่บ้านแม่อ้อมจังหวัดลำพูน ที่รอบๆ เป็นต้นลำใย ข้างบ้านก็มีต้นไม้ ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ อากาศถ่ายเทสะดวก ลมที่เข้ามาเป็นลมเย็น ทำให้ลูกอ้อมนอนหลับได้สนิทแม้จะมีคนเข้ามาเยี่ยมไม่ขาดสายและคุยกันเสียงดัง. ส่วนเรื่องเสียงร้องของเด็กที่ได้ยินเสียงเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเสียงแมวร้อง เพราะโทนเสียงคล้ายเด็กร้องให้

การที่ไปผูกข้อมือ ทำบุญที่วัด ก็เป็นไปได้ว่าสมัยใหม่เด็กๆรุ่นใหม่ไม่ค่อยเข้าวัดกันการผู่เฒ่าผู้แก่ให้เรานำลูกไปเข้าวัดแสดงว่าเขาอยากให้เราอยู่ใกล้วัด นับถือศาสนาพุทธ 

ทั้งหมดที่อ้อมแชร์มาให้ทราบกัน เพราะ หลายๆ คนอาจจะยังหาทางอยู่ และยังสงสัยทำไมลูกเราถึงร้อง ยังไง อาจจะต้องใช้ทั้งสองอย่างช่วยๆ กันนะคะ อ้อมขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อ คุณแม่ทุกๆ คนจ้า
ลำไย ลำพูน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น